เปิดตัวอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อย สำหรับ iPhone 12 Series โดยในครั้งนี้เปิดตัวออกมาถึง 4 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ iPhone 12 Mini, iPhone 12, iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max
พร้อมทั้งล่าสุด ทาง Apple ก็แจ้งวันขายในประเทศไทยทุกรุ่นแล้วด้วย คือวันที่ 27 พฤศจิกายน 2563 นี้นั่นเอง ใครที่เล็งรุ่นไหนไว้ ห้ามพลาดเลยนะครับ
ตารางเปรียบเทียบสเปก iPhone 12 Series
สีสันและการดีไซน์ในครั้งนี้ จะมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ระหว่าง iPhone 12 mini / iPhone 12 กับ iPhone 12 Pro / iPhone 12 Pro Max
ดีไซน์รอบตัวเครื่อง iPhone 12 mini / iPhone 12
ขอบตัวเครื่องทั้งคู่ใช้ขอบอะลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศ ให้เราสัมผัสได้ถึงความพรีเมียม ตัวเครื่องมีความบางเบา แต่แข็งแรงไม่หักไม่งอง่ายอีกต่อไป ตัวเครื่องด้านหลังมีลักษณะเงาวาว (Glossy)
เหมือนเคลือบแก้วเอาไว้ ตรงจุดนี้ให้ความสวยงามแต่ก็ทำให้เป็นรอยนิ้วมือได้ง่ายเช่นกันครับ
ภายในกล่องกระจกกันรอยของโฟกัส เราได้แถมเป็น “ฟิล์มหลังแบบด้าน” ให้ฟรีในกล่องด้วย ติดแล้วผิวสัมผัสด้านหลังเครื่องจะมีความแมตต์มากขึ้น จับแล้วไม่เกิดรอยนิ้วมือ ไม่ต้องคอยเช็ด และป้องกันริ้วรอยที่เกิดจากการใช้งาน และการเสียดสีเนื่องจากใส่เคสได้ด้วย
ดีไซน์รอบตัวเครื่อง iPhone 12 Pro / iPhone 12 Pro Max
ขอบจอจะบางขึ้นกว่าทางฝั่งรุ่นน้องเล็กน้อย ทำให้ทั้งรุ่น Pro และ Pro Max ได้พื้นที่หน้าจอที่กว้างกว่า ขอบตัวเครื่องมีความทนทานสูงกว่าด้วยการเลือกใช้สเตนเลสเกรดเดียวกับที่ใช้ในผลิตเครื่องมือศัลยกรรม นอกจากนี้ตัวผิวสัมผัสเครื่องด้านหลังจะเป็นแบบด้านแทน ซึ่งสามารถติดฟิล์มกันรอยด้านหลังได้เช่นเดียวกันครับ เพื่อป้องกันรอยขีดข่วน ทำให้เราใช้งานตัวเครื่องได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น
และอย่างที่เราทราบกันดีว่าหน้าจอของ iPhone 12 Series คราวนี้ เค้ามีจุดชูโรง คือหน้าจอแบบ Ceramic Shield ทำให้หน้าจอมีความแข็งแกร่งมากขึ้น 4 เท่า
จากผลการทดสอบของนักวิศกรรมจากต่างประเทศ โดยทดสอบแรงกดบนหน้าจอ iPhone 12 แล้วก็พบว่าต้องใช้แรงมากถึง 442 นิวตัน หน้าจอถึงจะแตก เทียบแรง 442 นิวตันให้เห็นภาพง่ายๆ ก็ เท่ากับ 1 คนเหยียบซ้ำไปซ้ำมานั่นเอง
แต่ในพาร์ทของการทดสอบรอยขีดข่วน ซึ่งจะแบ่งความแข็งเป็น 9 ระดับ
- ระดับ 1 ถึง 2 รอยจากเล็บ
- ระดับ 3 รอยจากเหรียญทอง เหรียญสลึง
- ระดับ 4 ถึง 5 รอยจากคมมีด
- ระดับ 6 รอยจากเข็ม เหล็กแหลม กุญแจขูดขีด
- ระดับ 7 รอยจากคมกระจก
- ระดับ 8 ถึง 9 รอยจากเพชร พลอย
ก็พบตัวกระจกหน้าจอของ iPhone 12 จะเริ่มเป็นรอยตั้งแต่ระดับ 6 เลยครับ
หมายความว่าหน้าจอ Ceramic Shield อาจจะช่วยในเรื่องของการตกหล่นได้ แต่จะไม่ได้ช่วยในเรื่องของการกันรอยขีดข่วน แปลว่าการติดกระจกกันรอยเอาไว้ ก็ยังเป็นสิ่งที่จำเป็นอยู่นะครับ
เพราะฉะนั้น หากจะเลือกซื้อกระจกกันรอยสำหรับ iPhone 12 Series ควรเลือกกระจกกันรอยที่สามารถทนแรงขีดข่วนได้มากกว่าระดับ 6 ขึ้นไป
ซึ่ง กระจกกันรอยของทางโฟกัส ก็ได้ผลิตกระจกเพื่อออกมารองรับในเรื่องการกันรอยขีดข่วน ได้มากถึงระดับ 9 (9H) จึงมั่นใจได้เลยครับ ไม่ว่าคุณจะใช้งานสมาร์ทโฟนแบบไหน หน้าจอก็ปลอดภัยจากรอยขีดข่วนอย่างแน่นอน
สำหรับ iPhone 12 Series โฟกัสมีกระจกกันรอยรองรับ 2 แบบด้วยกันครับ
1. กระจกกันรอยโฟกัสแบบใส ไม่เต็มจอ แถมฟรี! ฟิล์มหลังแบบด้าน
สำหรับ iPhone 12 Series
เหมาะกับคนที่ชอบกระจกแบบใสๆ ไม่มีขอบสีมากวนใจ แต่ยังชอบความทัชลื่น และต้องการการป้องกันรอยขีดข่วนที่ดีเยี่ยม นอกจากนี้กระจกแบบใส ยังรองรับการใส่เคสกันกระแทกที่ขอบหนามากๆ ได้ เคสไม่ดันกระจก
กระจกกันรอยโฟกัสแบบเต็มจอ (มีขอบสี) แถมฟรี! ฟิล์มหลังแบบด้าน
สำหรับ iPhone 12 Series
เหมาะกับคนที่ชอบกระจกแบบปกป้องเต็มหน้าจอ ตัวกระจกจะมีขอบสีเดียวกับตัวเครื่อง ทำให้ติดแล้วเนียนแนบสนิทไปกับหน้าจอ เหมือนสัมผัสกับหน้าจอจริง ทัชลื่นด้วยโค้ชติ้งพิเศษจากโฟกัส และยังคงคุณสมบัติกันรอยขีดข่วนในระดับดีเยี่ยม
