แนะนำ 7 ไอเทมอุปกรณ์เสริมต้องมี เมื่อซื้อมือถือใหม่ ให้พร้อมใช้งานตั้งแต่วันแรก

ช่วงนี้หลายๆ คนอาจจะกำลังเล็งซื้อมือถือใหม่กัน จากที่มีการเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ๆ มาเยอะมาก ทั้ง iPhone, Samsung รวมถึงมือถือค่ายอื่นๆ แต่รู้หรือไม่ว่าตอนเราซื้อมือถือใหม่มา หากหยิบออกไปใช้งานเลยทันทีโดยไม่มีอุปกรณ์เสริม หรืออุปกรณ์ปกป้องมือถือก่อน ก็อาจทำให้ใช้งานมือถือได้ไม่เต็มที่ แถมเสี่ยงทำมือถือเสียโฉมตั้งแต่วันแรก วันนี้แอดเลยได้มัดรวม 7 ไอเทมอุปกรณ์เสริมต้องมี ที่อยากแนะนำให้เพื่อนๆ ซื้อเพื่อเตรียมความพร้อมไว้สำหรับใช้งานมือถือเครื่องใหม่ได้เลยทันทีตั้งแต่วันแรกที่รับเครื่อง พร้อมสรุปงบเบื้องต้นของอุปกรณ์เสริมที่ทุกคนจะต้องจ่ายเพิ่ม เมื่อซื้อมือถือมาใหม่ให้เลยครับ

1) เคสมือถือ

สิ่งแรกที่ขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือ “เคสมือถือ” นั่นเอง เพื่อปกป้องมือถือของทุกคนจากการโดนกระแทกหรือโดนข่วนโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งปกติเคสจะมีให้เลือกหลายแบบมาก ตั้งแต่เคสแฟชั่น ที่เน้นใส่เพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับตัวเครื่อง จนถึงเคสกันกระแทกแบบยกขอบสูง ที่จะออกแบบมาเพื่อการปกป้องโดยเฉพาะ และราคาก็จะแตกต่างกันไปตามวัสดุที่ใช้นั่นเอง โดยราคาเริ่มต้นเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 100 บาทครับ

2) ฟิล์มกระจกกันรอยหน้าจอ

หนึ่งในไอเทมสำคัญที่ควรมีพร้อมตั้งแต่วันแรกที่รับเครื่องเลยก็คือ ฟิล์มกระจกกันรอยหน้าจอนั่นเอง เพราะหากหยิบเครื่องออกมาใช้งานเลยทันทีโดยยังไม่ได้ติดฟิล์ม หากเกิดเหตุไม่คาดฝันหน้าจอเป็นรอยขึ้นมา ค่าซ่อมต้องทำกระเป๋าฉีกแน่นอน ดังนั้นแอดแนะนำให้ติด “ฟิล์มกระจกกันรอย โฟกัส” กันไว้ก่อนนะครับ ด้วยวัสดุกระจกคุณภาพสูง จึงสามารถช่วยปกป้องหน้าจอของทุกคนจากรอยขีดข่วนที่อาจเกิดขึ้นได้ และยังคงการแสดงผลภาพได้อย่างคมชัด และทัชลื่นเหมือนเดิม รวมถึงไม่ดันเคสแน่นอน ให้ทุกคนสามารถใช้งานมือถือได้อย่างมั่นใจตั้งแต่วันแรกที่รับเครื่องมาเลย และพิเศษ! มีแถมฟิล์มหลังด้วย ในราคาเริ่มต้นเพียง 249 บาท โดยทุกคนสามารถสั่งซื้อผ่านทาง เว็บไซต์ นี้ หรือใครมีเครื่องในมือแล้วอยากติดปกป้องเลยทันที ก็สามารถไปติดกันได้ที่ Focus Store ที่จะมีผู้เชี่ยวชาญ พร้อมติดและให้บริการกับทุกคน หรือตัวแทนจำหน่ายได้ทั่วประเทศเลยครับ

3) ฟิล์มเลนส์กล้อง

ในช่วงที่ผ่านมานี้ มือถือหลายๆ ยี่ห้อก็ได้มีการดีไซน์ให้เลนส์กล้องหลังมีความนูนออกมาจากตัวเครื่องค่อนข้างเยอะเช่น iPhone 14 Pro Max, Samsung S23 Ultra เป็นต้น หากเผลอทำกล้องเป็นรอยขึ้นมา ค่าซ่อมคือเกือบหลักหมื่นเลย ทำให้ฟิล์มเลนส์กล้องจึงกลายเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลย ดังนั้นถ้าปกป้องหน้าจอแล้ว ก็ต้องอย่าลืมปกป้องเลนส์กล้องด้วย “ฟิล์มเลนส์กล้อง โฟกัส” กันด้วยนะครับ เพื่อที่จะได้ปกป้องเลนส์กล้อง ให้สวยใสไร้รอยขีดข่วน และที่สำคัญไม่ทำให้ภาพดรอป และยังคงถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอกันได้ภาพที่คมชัดและสีสวยเหมือนเดิม และช่วยให้ตัวเครื่องได้รับการปกป้องแบบครบรอบด้านไปเลย ทั้งหน้า-หลัง-กล้อง ในราคาเริ่มต้น 350 บาทครับ

4) หัวชาร์จ (Adapter)

ปัจจุบันมือถือหลายรุ่นไม่มีการแถมหัวชาร์จ (Adapter) มาให้ในกล่องแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Apple, Samsung หรือล่าสุด Oppo บางรุ่นก็ไม่มีแล้ว ด้วยเหตุผลทางด้านสิ่งแวดล้อม ในการช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ถ้าซื้อมือถือเครื่องใหม่ แล้วยังไม่มีหัวชาร์จที่รองรับกับมือถือยี่ห้อนั้นๆ เราก็จำเป็นที่จะต้องซื้อหัวชาร์จอันใหม่กันนั่นเอง รวมไปถึงคนที่อยากได้หัวชาร์จที่รองรับการชาร์จไวมากขึ้นกว่าที่มีแถมให้ในกล่องด้วย และนอกจากหัวชาร์จแล้ว ก็อาจจะต้องมี สายชาร์จ เพิ่มอีก เพื่อความสะดวกในการไปใช้ชาร์จในรถนั่นเอง ซึ่งการเลือกซื้อหัวชาร์จ ควรเลือกยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ และมีมาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานนะครับ ราคาเริ่มต้นเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 200 บาท

5) หูฟังแบบไร้สาย

หูฟังคืออีกหนึ่งไอเทมติดตัวของใครหลายๆ คน โดยปัจจุบัน “หูฟังแบบไร้สาย” ได้กลายเป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้น ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัยพร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานมากขึ้น ไม่ต้องมีสายพันกวนใจแล้ว รวมไปถึงมือถือบางยี่ห้อก็ออกแบบตัวเครื่องมาแบบไม่มีรูหูฟังแล้วนั่นเอง จึงทำให้ต้องเลือกใช้หูฟังเฉพาะแบบไร้สายเท่านั้น และยิ่งหูฟังราคาสูงก็ยิ่งได้คุณภาพเสียงที่ดีมากยิ่งขึ้น และสวมใส่ได้สบายมากขึ้นเพราะมีการออกแบบให้รองรับสรีระหู รวมถึงมีฟีเจอร์ต่างๆ อัพเกรดเพิ่มขึ้นมาด้วย เช่น ระบบตัดเสียงรบกวน หรือระบบกันน้ำกันเหงื่อได้ โดยราคาเริ่มต้นเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1,000 บาท

6) Power Bank

สำหรับคนที่ต้องใช้งานมือถือทั้งวัน หรือต้องเดินทางบ่อยๆ ควรจะต้องมีอุปกรณ์เสริมอย่าง “Power Bank” (แบตเตอรี่สำรอง) ติดกระเป๋าไว้เลย เพราะเรียกได้ว่าเป็นตัวช่วยต่อชีวิตให้กับมือถือของเราได้เป็นอย่างดี รวมถึงมีไว้สำรองฉุกเฉินเผื่อวันไหนลืมชาร์จแบตเตอรี่ ก็จะได้ใช้งานมือถือเราได้อย่างไร้กังวลเลย โดย Powerbank ก็ได้มีการพัฒนาให้มีความจุไฟที่มากขึ้น แต่ขนาดเล็กลง และน้ำหนักเบามากขึ้น เพื่อให้สะดวกต่อการพกพานั่นเอง แต่แนะนำว่าควรเลือกซื้อ Power bank ยี่ห้อที่ได้มาตรฐานเพื่อความปลอดภัยขณะใช้งานนะครับ ราคาเริ่มต้นเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 500 บาท

7) แท่นวางมือถือในรถยนต์

สุดท้ายคือ “แท่นวางมือถือในรถยนต์” อุปกรณ์เสริมสำหรับคนที่ขับรถยนต์ และจักรยานยนต์ เพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ดู GPS เพื่อความปลอดภัยขณะขับรถ รวมไปถึงใช้ดูหนัง ดู Youtube ขณะรถติดได้สบายๆ ไม่ต้องเมื่อยแขนถือตลอดเวลา ซึ่งควรเลือกซื้อแท่นวางมือถือโดยคำนึงจากรูปแบบของรถ และขนาดของมือถือ โดยปัจจุบันมีแท่นวางมือถือหลากหลายรูปแบบให้เลือกได้ เช่น ที่ยึดแบบสุญญากาศ, ที่ยึดแบบแม่เหล็ก เป็นต้น โดยราคาเริ่มต้นเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 100 บาท

สรุปต้องจ่ายทั้งหมดเท่าไหร่?

นอกเหนือจากค่ามือถือที่เราต้องผ่อนแต่ละเดือนแล้ว หากคุณต้องซื้ออุปกรณ์เสริมใหม่ทั้งหมดโดยคำนวณจากราคาเริ่มต้น จะต้องจ่ายเพิ่มอีกประมาณ 2,300 บาทนั่นเองครับ แต่ตัวเลขที่คำนวณไว้เป็นเพียงราคาเริ่มต้นที่แอดประมาณการไว้เท่านั้น หากจะซื้ออุปกรณ์เสริม ยี่ห้อดีๆ หรือที่มีฟังก์ชันแบบจัดเต็ม ราคาก็จะยิ่งสูงขึ้นไปอีกนั่นเอง

แต่หากเรียงตามความจำเป็นที่ต้องเลือกซื้อ ไอเทมสำคัญที่สุดที่ควรมีตั้งแต่วันแรกที่รับเครื่องเลยนั่นก็คือ อุปกรณ์สำหรับปกป้องมือถือ นั่นเอง ทั้งเคสมือถือ, ฟิล์มกระจกกันรอยหน้าจอ และฟิล์มเลนส์กล้องนะครับ เพราะถ้าแกะกล่องมาใช้งานเลย แล้วเกิดมีรอยขีดข่วนขึ้นมา ต้องมีเสียค่าซ่อมกันเพิ่มอีกนะครับ ดังนั้นติด “ฟิล์มกระจกกันรอย โฟกัส” ปกป้องครบรอบด้านทั้งหน้าจอ ด้านหลัง และเลนส์กล้องเลยตั้งแต่วันแรกที่รับเครื่อง เพื่อให้สามารถใช้งานมือถือได้อย่างมั่นใจกันตั้งแต่วันแรกเลยนะครับ หากใครสนใจสามารถสั่งซื้อผ่านทาง เว็บไซต์ นี้ได้เลย หรือใครมีเครื่องในมือแล้วอยากติดปกป้องเลยทันที ก็สามารถไปติดกันได้ที่ Focus Store หรือตัวแทนจำหน่ายได้ทั่วประเทศเลยครับ