เมื่อเดือนกันยายนปี 2020 ที่ผ่านมา OPPO ได้เปิดตัวน้องเล็กตระกูล A ราคาสุดคุ้ม อย่าง OPPO A53 ที่ได้กระแสตอบรับดีมากๆ และติดชาร์จมือถือราคาประหยัดยาวมาจนถึงปัจจุบัน
ล่าสุดทาง OPPO ก็ได้ออกน้องเล็กคนใหม่ อัพเวอร์ชั่นที่ดีกว่าเดิม สเปคแน่นขึ้น ดีไซน์สวยขึ้นอย่าง OPPO A54 ขึ้นมาตีตลาดมือถือราคาประหยัด คราวนี้เอาใจคนชอบมือถือที่มีครบทุกฟังก์ชัน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม ชมคอนเทนต์ หรือถ่ายรูป ด้วยหน้าจอขนาด 6.51 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD+ แบตเตอรี่อึดสะใจถึง 5,000 mAh มาพร้อมกับระบบ Fast Charge 18W ชาร์จเต็ม 70% ในเวลาเพียง 60 นาที ความจุเต็มแม็กซ์ RAM 128GB กล้อง AI 4 ตัว และดีไซน์โดดเด่นหรูหรามีระดับ ในราคาเพียง 5,699 บาท
สเปคตื่นตา ราคาน่าคบหาแบบนี้ ยกให้ OPPO เป็นที่หนึ่งตลอดกาลครับ เรามาทำความรู้จักกับ OPPO A54 มือถือน้องเล็กสเปคคุ้มค่า ราคาประหยัดเครื่องนี้กัน
สเปคโดยรวม OPPO A54
- ระบบปฏิบัติการ : ColorOS 7.2 บนพื้นฐานแอนดรอยด์ 10
- ขนาดตัวเครื่อง : 163.6 x 75.7 x 8.4 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก : 192 กรัม
- หน้าจอแสดงผล : ขนาด 6.51 นิ้ว ความละเอียด 1600×720 พิกเซล มีความหนาแน่นต่อพิกเซล 269PPI
- ชิปเซ็ต : MediaTek Helio P35
- GPU : IMG PowerVR GE8320
- RAM : 4GB LPDDR4X
- พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน : 128GB Micro SD Card สูงสุด 256GB
- กล้องหลัง 3 เลนส์
- เลนส์หลัก ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ออโต้โฟกัส
- เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- เลนส์ Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้องหน้า ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 2.4GHz/5GHz, Bluetooth 5.0, พอร์ต USB Type-C, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, GPS, Glonass, USB OTG
- รองรับการใช้งานสองซิมการ์ด ถาดซิมการ์ดประเภท Triple-Slot
- ระบบความปลอดภัย : สแกนนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง, สแกนใบหน้า
- แบตเตอรี่ : 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 18 วัตต์
ก่อนเข้าสู่การรีวิว หน้าจอวันนี้ติด “FOCUS กระจกกันรอยเต็มจอแบบใส สำหรับ OPPO A54” เพื่อทดสอบคุณสมบัติของกระจกไปพร้อมๆ กันครับ กระจกเต็มจอแบบใส มีคุณสมบัติเด่นๆ ในเรื่องการป้องกันรอยขีดข่วนบนหน้าจอ ตัวกระจกใสแบบ HD ไม่ดรอปสีสันบนหน้าจอ มีขอบสีเดียวกับตัวเครื่อง ติดแล้วดูเนียนขอบไม่ลอย ไม่หลอกตา
ลักษณะภายนอก/การออกแบบ
OPPO A54 ยังคงความโดดเด่นเรื่องสีสัน และความบางของตัวเครื่อง พกใส่กระเป๋ากางเกงได้แบบสบายๆ ที่เคยมีในรุ่น A53 เอาไว้เช่นเคย จะแตกต่างกันที่ความโค้งมนของตัวเครื่อง รุ่นนี้จะมีความโค้งมนแบบ 3D น้ำหนักเพียง 192 กรัม ทำให้จับถนัดมือมากยิ่งขึ้น ความพิเศษอีกอย่างนึงของ OPPO A54 ที่แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าคือ บอดี้กันน้ำและฝุ่นระดับ IPX4 ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ไม่ได้พบบ่อยนักในมือถือราคาที่ใกล้เคียงกัน
สีที่นำมารีวิวในวันนี้ มีชื่อสีว่า Starry Blue เป็นสีฟ้าไล่เฉดตั้งแต่สีเข้มไปสีอ่อน เล่นแสงสวยงาม เสมือนประกายแสงของดวงดาวในยามค่ำคืน บนตัวเครื่องมีโลโก้ OPPO อยู่มุมขวาล่าง ด้านหลังของตัวเครื่องมีความมันวาวรับกับลูกเล่นการไล่เฉดสี ตัดกับขอบตัวเครื่องที่เป็นพื้นผิวแบบเมทัลลิคได้อย่างลงตัว ดูพรีเมี่ยมและเป็นเอกลักษณ์มากๆ ครับ
แต่สำหรับใครที่ชอบลุคแบบเคร่งขรึม หล่อเท่ OPPO A54 ก็ยังมีให้เลือกอีกหนึ่งสี ในชื่อว่า Crystal Black ก็เป็นสีดำที่ดูมีมิติ ไม่ซ้ำใคร
แต่ความมันวาวนี้ก็มีข้อเสียอยู่เล็กน้อยเรื่องการจับติดรอยนิ้วมือง่าย ทำให้เราต้องเช็ดคราบจากตัวเครื่องบ่อยหน่อย แก้ปัญหาด้วยการใส่เคสแบบใส หรือเลือกติดเป็นฟิล์มกันรอยด้านหลัง ก็ได้เช่นกัน ฟิล์มกันรอยด้านหลังนี้ FOCUS มีแถมให้ฟรี! ในกล่องกระจกกันรอยทุกรุ่นเลย สำหรับ OPPO A54 ด้านในจะแถมเป็น “ฟิล์มกันรอยด้านหลังแบบด้าน” นะครับ โดยส่วนตัวแล้ว พอติดฟิล์มแบบด้านลงไป ก็ทำให้ผิวสัมผัสของตัวเครื่องดูพรีเมี่ยมขึ้นไปอีก น่าจะถูกใจคนชอบโชว์สีเครื่องอยู่ไม่น้อย
รุ่นนี้ยังคงรองรับการสแกนลายนิ้วมือเช่นเดียวกันครับ ซึ่งปุ่มแสกนลายนิ้วมือ จากรุ่นก่อนหน้าที่เคยเอาไว้ด้านหลัง ได้ถูกย้ายมาอยู่บริเวณด้านข้างตัวเครื่องแล้ว จากที่แอดได้ทดลองใช้พบว่าพวกปุ่มสแกนลายนิ้วมือที่อยู่ด้านข้างแบบนี้ ทำให้สแกนลายนิ้วมือได้สะดวกขึ้น ไวขึ้น และค่อนข้างใช้งานง่ายกว่าการสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอครับ เรียกว่าสั่งการได้ด้วยมือเดียว แต่ถ้าใครไม่ชอบ กลัวสีด้านข้างหลุดลอกไม่สวยงาม ก็ยังมีฟีเจอร์สแกนใบหน้าให้เลือกใช้
ด้านล่างของตัวเครื่องจะมีรูลำโพง ช่องเสียบสายชาร์จแบบ Type-C และช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 mm แต่ภายในกล่องจะไม่ได้แถมตัวหูฟังมาให้นะครับ
ในส่วนโมเดลของตัวกล้องหลัง ก็ถูกวางมาในกรอบแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า ประกอบด้วย กล้อง 3 เลนส์ และไฟแฟลชที่ด้านล่าง มองเผินๆ แล้วคล้ายกับมีกล้อง 4 เลนส์ที่ด้านหลัง เพื่อให้ทุกเลนส์อยู่ในกรอบได้อย่างลงตัว ด้านการออกแบบถือว่าทำออกมาได้ดีเลยครับในส่วนนี้ เป็นเลนส์หลอกที่แนบเนียนสุดๆ
กรอบเลนส์กล้องนูนขึ้นมาจากตัวเครื่องเล็กน้อย ซึ่งเหมือนทาง OPPO ก็คิดมาแล้วครับ ด้านในกล่องเค้าเลยแถมเคสใส ที่ครอบคลุมบริเวณเลนส์กล้องทั้งหมดมาให้ด้วย!
พอใส่เคสเข้าไป ก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเครื่องหนาเทอะทะ ยังคงจับได้ถนัดมือ เคสไม่ดันกระจกกันรอยที่เราติดไว้บนหน้าจอก่อนหน้านี้ด้วย เป็นอันได้ข้อสรุปว่า กระจกกันรอยเต็มจอแบบใสของ FOCUS ติดแล้วสามารถใส่เคสได้
หน้าจอ Oppo A54
OPPO A54 มีจอแสดงผลเป็นแบบ LCD ความกว้าง 6.51 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1600×720 พิกเซล) มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องสูงถึง 89.2% ซึ่งถือว่าเป็นอัตราส่วนที่ทำให้เรารับชมคอนเทนต์ต่างๆ ได้เต็มตาเลยครับ แอดทดลองด้วยการเปิดดูหนังที่มีซับไตเติ้ล ก็ยังสามารถอ่านซับได้ ตัวหนังสือไม่เล็กจนเกินไป สามารถเลือกย่อหรือขยายตัววิดีโอได้
มาพร้อมกับระบบ AI ปรับเพิ่มการมองเห็นของหน้าจอให้ดีขึ้นตามสภาพแสงโดยรอบ 2 โหมด ได้แก่ Sunlight Screen จะช่วยเพิ่มความสว่างของหน้าจอแบบอัตโนมัติภายใต้แสงจ้า และ Moonlight Screen ช่วยปรับแสงให้บาลานซ์กับสายตาในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อย มี AI Smart Backlight เรียนรู้การใช้งานของผู้ใช้ เพื่อปรับแสงอัตโนมัติตามที่เก็บข้อมูลไว้ และสุดท้ายคือช่วยลดแสงสีฟ้าบนหน้าจอด้วยเทคโนโลยี Eye Comfort ที่ช่วยป้องกันอาการปวดเมื่อยของดวงตาเมื่อต้องจ้องจอเป็นเวลานานๆ
ที่ส่วนบนของหน้าจอเป็นแบบ Single Punch-hole display รอยเจาะขนาดเล็กที่มุมบนซ้าย ซึ่งเป็นตำแหน่งของกล้องหน้า ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
น่าเสียดายที่ใน OPPO A54 เราจะได้ค่า Refresh Rate อยู่ในระดับมาตรฐานที่ 60Hz (แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าที่ได้สูงถึง 90Hz) ทดสอบการแสดงผลบนหน้าจอโดยการเล่นเกม สามารถเล่นเกมที่มีค่ากราฟิกระดับต่ำถึงกลางได้ดี แต่เมื่อใช้เล่นเกมที่ปรับค่ากราฟิกระดับสูง และเอฟเฟกต์ในเกมสูง พบว่าการประมวลผลหน้าจอทำได้ช้าลง มีความหน่วงเกิดขึ้นเล็กน้อย ดังนั้นหากต้องการเล่นเกมแบบไม่สะดุด แนะนำให้ปรับค่ากราฟิกอยู่ที่ระดับกลางครับ
แต่ในขณะเดียวกัน OPPO A54 ก็ให้ค่า Touch-Sensing หรือก็คือค่าการตอบสนองการสัมผัส สูงถึง 120Hz มาทดแทนกัน แม้การเล่นเกมในค่ากราฟิกสูงๆ จะขัดใจไปสักนิด แต่การเข้าแอพพลิเคชั่นอื่นๆ และการสั่งงานด้วยปลายนิ้วของเรานั้น รวดเร็วไหลลื่นมากๆ
ชิพเซ็ต/หน่วยประมวลผล
OPPO A54 มาพร้อมกับชิพประมวลผล Mediatek Helio P35 (MT6765) Octa-Core ความเร็วสูงสุด 2.35 GHz ซึ่งชิพเซ็ตตัวนี้ จะโดดเด่นในเรื่องของการทำให้มือถือระดับกลางมีประมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น แต่ใช้พลังงานน้อยลง หรือสรุปให้เข้าใจง่ายๆ ว่า เราสามารถใช้งานเจ้าเครื่อง OPPO A54 ได้เต็มที่ขึ้น ได้ฟีเจอร์บางฟีเจอร์ที่ใกล้เคียงกับมือถือราคาหลักหมื่น แต่แบตเตอรี่จะอยู่ได้นานมากกว่ารุ่นที่ไม่ได้ใช้ชิพเซ็ตตัวนี้ถึง 40%
และยังมีพื้นที่หน่วยความจำขนาดใหญ่ RAM 4GB + ROM 128GB รองรับ MicroSD Card ได้สูงสุด 256GB ทำให้ OPPO A54 มีพื้นที่มากพอสำหรับเก็บไฟล์และรูปภาพต่างๆ ได้อย่างจุใจ ซึ่งแน่นอนครับ หน่วยความจำยิ่งขนาดใหญ่ ก็หมายความว่าการประมวลผลก็จะไหลลื่นยิ่งขึ้นด้วย
OPPO A54 มาพร้อมระบบปฏิบัติการ ColorOS 7.2 บนพื้นฐาน Android 10 อาจจะไม่ใช่รุ่นใหม่ล่าสุด แต่ก็สามารถใช้งานพื้นฐานได้ดี มีฟีเจอร์ครอบคลุมทุกการใช้งานครับ
แบตเตอรี่
มาถึงพาร์ทที่เป็นตัวชูโรงของรุ่นนี้ครับ อย่างที่เกริ่นไว้ตอนต้นว่า OPPO A54 เครื่องนี้ให้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่มาก อยู่ที่ 5000 mAh พร้อมรองรับการชาร์จไว 18W ชาร์จแบตเตอรี่ได้ 70% ใช้เวลาเพียง 60 นาที ซึ่งตัวอะแดปเตอร์ไม่ต้องซื้อเพิ่มครับ เพราะเค้าแถมมาให้เลยในกล่อง
เรื่องการประหยัดพลังงาน ถือว่าทำได้ในระดับดีมากนะครับสำหรับมือถือราคาไม่ถึงหกพัน โดยส่วนตัวแล้ว จากการที่ได้ลองเล่นรุ่นก่อนหน้าที่มีความจุแบตเตอรี่ที่เท่ากัน พบว่าแบตเตอรี่สามารถอยู่ได้นานมากจริงๆ ชาร์จเพียงหนึ่งครั้ง สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวัน ไม่ต้องชาร์จเพิ่ม
สำหรับ OPPO A54 ที่ได้รับการอัพเวอร์ชั่น รวมถึงมีชิพเซ็ตที่ช่วยเรื่องการประหยัดพลังงานอย่าง Helio P35 ด้วยแล้ว เรื่องการใช้งานไม่ต้องห่วงเลยครับ อึด ถึก ทนกว่า ใช้งานได้ยาวๆ สมกับสโลแกน “สนุกต่อเนื่องได้ทั้งวัน” หรืออาจจะข้ามวันเลยล่ะ
กล้องถ่ายรูป
กล้องหลัง
OPPO A54 จัดกล้องหลังมาให้ด้วยกัน 3 เลนส์ ประกอบด้วย
- กล้องหลัก ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
- เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- เลนส์ Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- รองรับการถ่าย VDO แบบ Full HD
กล้องหน้า
สำหรับกล้องหน้าของ OPPO A54 มาพร้อม ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายโบเก้ได้ ยังคงฟีเจอร์การปรับแต่งใบหน้าให้ดูสวยงามด้วย AI Beautification ตามแบบฉบับของ OPPO ที่จะตรวจจับและปรับให้เหมาะสมกับสีผิว, เพศ และแสงโดยรอบที่ต่างกันได้อย่างอัจฉริยะ ตัวกระจกกันรอยที่ติดทับเลนส์กล้องหน้าอยู่ ไม่ได้ลดทอนความคมชัดของตัวกล้อง และไม่ได้รบกวนการทำงานของเซ็นเซอร์แต่อย่างใดครับ
แม้ลูกเล่นในการถ่ายภาพจะมีไม่มาก และไม่ได้มีเลนส์ Dapt จับภาพหน้าชัดหลังเบลอกับเลนส์ Wide ที่ช่วยเก็บภาพมุมกว้าง มาให้ แต่ก็ถือว่าตอบโจทย์การถ่ายภาพในชีวิตประจำวันได้ครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็น โหมดกลางคืน, โหมดถ่ายภาพแบบโบเก้, โหมดการถ่ายภาพแบบ Macro
แถมยังใส่ฟีเจอร์พิเศษที่มีเฉพาะใน OPPO อย่าง AI Scene Recognition ช่วยวิเคราะห์ ตกแต่งภาพโดยอัตโนมัติ และโหมด Dazzle Color ที่จะช่วยดึงให้สีสันของภาพถ่ายมีความสดใสยิ่งขึ้น ใครที่เห็นกว่ากล้องหลักถ่ายสีออกมาได้ซีดเกินไป (เช่น ถ่ายภาพดอกไม้ หรืออาหาร) ก็สามารถเปิดโหมดนี้ขึ้นมาใช้งานได้ทันที ปรับสีแบบเรียลไทม์ ฉลาดสุดๆ! นอกจากนี้ยังมีฟิลเตอร์ที่ทำให้การถ่ายภาพของเราหลากหลาย มีมิติขึ้น ถึง 15 ฟิลเตอร์
สีสันและอันเดอร์โทนของภาพจากกล้องปกติ จะออกไปทางโทนธรรมชาติ ไม่เหลืองและไม่ชมพูจนเกินไป และตัวกล้องสามารถเก็บรายละเอียดได้ดีในแสงตอนกลางวัน และแสงธรรมชาติครับ ส่วนแสงในห้องดีเทลจะดรอปลงเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้สูญเสียรายละเอียดมากนัก
ซึ่งในบทความนี้ แอดได้ทดลองถ่ายภาพ และนำมาให้รับชมและช่วยในการตัดสินใจกันบางส่วนด้วย
ใครที่อยากรับชมแบบภาพเคลื่อนไหว เห็นตัวเครื่องแบบ 360 องศา ก็สามารถไปรับชมกันในรูปแบบ VDO ที่ด้านล่างนี้ได้เลยครับ
จากทั้งหมดข้างต้น เราคงได้รู้จักกับ OPPO A54 กันมากขึ้นนะครับ สรุปได้ว่า OPPO A54 เป็นสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นที่มีฟีเจอร์การใช้งานพื้นฐานมาให้ครบ จบในเครื่องเดียว มีจุดเด่นอยู่ที่แบตเตอรี่อึด ถึก ทน เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับใครที่กำลังมองหามือถือดี ๆ สักเครื่อง ที่ดีไซน์สวยงาม ในงบประมาณไม่เกิน 6,000 บาท
ในบทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นจากการทดลองใช้งานของแอดมินเอง ดังนั้นหากใครที่สนใจซื้อมือถือรุ่นนี้ แนะนำให้ทดลองให้ลองเล่นด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่งเพื่อความมั่นใจครับ
ใครที่เป็นเจ้าของเครื่อง OPPO A54 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่าลืม! ติดกระจกกันรอยป้องกันหน้าจอกันด้วยนะ จะได้ใช้งานอย่างสนุกต่อเนื่องกันไปยาวๆ
กระจกกันรอย เต็มจอ สำหรับ OPPO A54
