ติดฟิล์มโฟกัส ฟิล์มกระจกกันรอย Focus Film

ipad mini 6

แกะกล่องรีวิว iPad Mini 6 น้องใหม่รุ่นจิ๋ว พลังแรง

หลังจากที่ iPad mini รุ่นที่ 5 เปิดตัวล่าสุดไปเมื่อปี 2019 วันนี้ iPad mini รุ่นที่ 6 มาแล้วครับ พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่หลายคนต้องว้าวให้กับ iPad mini รุ่นที่ 6 ตัวนี้ ด้วยขนาดที่เล็ก พกพาง่าย แต่ประสิทธิภาพดีขึ้น! เรามาแกะกล่องลองใช้งานเครื่องดูครับ ว่ามันจะเป็นอย่างไร น่าใช้จริงไหม และเหมาะกับใครมากที่สุด

 

สเปกเครื่อง iPad Mini Generation 6

  • ขนาด: 195.4 x 134.8 x 6.3 มิลลิเมตร
  • หนัก: 293 กรัม (Wi-Fi) 297 กรัม (Wi-Fi + Callular)
  • หน้าจอแสดงผล : Liquid Retina Display ความละเอียด HD+ (1488 x 2266 พิกเซล) ขนาดประมาณ 8.3 นิ้ว
  • ชิปเซ็ต : Apple A15 | GPU : Apple GPU (5-Core)
  • RAM : 4 GB
  • ROM : 64 – 256 GB
  • ความจำเสริม : iCloud Storage
  • ระบบปฏิบัติการ: เริ่มต้น iPad OS 15
  • WiFi 802.11 B/G/N/AC/6 (Dual Band)
  • Bluetooth 5.0
  • เครือข่ายมือถือ : 2G/3G/4G/5G
  • กล้องหลังมีทั้งหมด 1 ตัว
  • ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล F/1.8
  • กล้องหน้าเซลฟี่ : ความละเอียดกล้องหลัก: 12 ล้านพิกเซล, มุมกว้าง 122 องศา รองรับ Center Stage             
  • รองรับ : nano SIM (เฉพาะ รุ่น Wi-Fi + Cellular)
  • ช่องเสียบ : USB-C
  • แบตเตอรี่ : Li-Po ไม่ทราบ ระบบชาร์จไฟ 20W   
  • สี : ม่วง, ชมพู, เทา Space Grey และ เงิน

 

ลักษณะภายนอก/การออกแบบ

เริ่มต้นกับดีไซน์ของเครื่อง iPad mini 6 มาพร้อมกับขนาดหน้าจอ 8.3 นิ้ว ขอบลดลงจากรุ่นเดิมไม่น้อยครับ สามารถถือใช้งานได้สะดวกขึ้นมาก และมีกล้องอยู่ตรงด้านบนในแนวตั้ง การสั่งงานและกลับหน้าหลักทำได้เฉพาะการปัดจากด้านล่างขึ้นข้างบนเท่านั้น รอบตัวเครื่องทำจากอะลูมิเนียม

มีดีไซน์ที่เล็กถือง่ายน้ำหนักเบา และเหมือนกับร่างย่อส่วนของ iPad Air Gen 4 เพียงแต่ว่าใครที่ชอบการพิมพ์ Keyboard นั้นต้องทำใจเพราะต้องเชื่อมต่อกับ Bluetooth เท่านั้น และขนาดเครื่องมีความกว้างพอๆ กับ Apple Pencil 2 แต่ถ้าใครเคยติดความใหญ่ของ iPad รุ่นก่อนหน้านี้ มันจะเล็กไปทันที แต่ภาพรวมถ้าเทียบกรุ่นที่แล้ว มันใหญ่กว่าทุกมิติครับ

iPad mini 6 นี้ ยังมาพร้อมกับการรองรับ Apple Pencil รุ่นที่ 2 และอุปกรณ์เสริม Smart Folio สีใหม่ด้วย

ส่วนบนสุดของเครื่องจะมีปุ่มปรับระดับเสียง, ลำโพงคู่, ปุ่ม Power พร้อมกับ Touch ID แถมมีไมโครโฟนในตัว ส่วนล่างสุดจะมีลำโพงฝั่งซ้ายและขวา ตรงกลางคือ USB-C สำหรับเสียบชาร์จไฟหรือต่อกับอุปกรณ์อื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น กล้อง, Computer เป็นต้น

สเปคแรงขึ้น และ กล้องที่เปลี่ยนไป

ระบบปฏิบัติการของเครื่องเลือกใช้ iPad OS 15 ใหม่ล่าสุด โดยจุดเด่นหลักๆ ที่ได้พบคือ

  • การใช้งานแบบ Multi Tasking ที่ปรับแต่งได้ง่ายและทำได้ทั้งหมด 3 รูปแบบด้วยกัน
  • Center Stage ถ้าทำงานผ่าน Face Time สามารถขยับตามหรือขยายออกถ้ามีคนอยู่มากกว่า 1 คน
  • บันทึก Note ด่วนได้แค่ลาก Pencil ไปจากมุมขวาของเครื่อง
  • ลาก Pencil มุมซ้ายขึ้น สามารถ Capture หน้าจอได้
  • ตั้ง Focus ให้สามารถเลือกว่าเวลานี้คุณทำอะไรอยู่

กล้องของ iPad Mini Gen 6 นั้นทั้งหน้าและหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล แต่กล้องหน้าจะได้มุมที่กว้างกว่าพอสมควร เมื่อลองถ่ายภาพก็มีความสว่างมากขึ้นกว่ารุ่นเดิมแบบชัดเจนมาก

สำหรับใครที่ซื้อมาแล้ว และต้องการจะติดกระจกกันรอย ขอแนะนำ กระจกกันรอยของโฟกัส ที่ได้ออกแบบมาโดยเว้นช่องบริเวณกล้องหน้าเอาไว้ด้วย ถ่ายภาพได้คมชัดเหมือนเดิมแน่นอน ที่สำคัญตัวกระจกยังบางมากๆ ไม่ได้เพิ่มความเทอะทะ รบกวนความ mini แต่อย่างใด และยังให้สีสันของหน้าจอที่สดใสเหมือนเดิมด้วยครับ

ถือว่าเป็นการสิ้นสุดการรอคอยสำหรับคนที่ชอบ iPad ขนาดไม่ใหญ่เกินไปเล็กกำลังดีแต่ตอบสนองการทำงานได้เหมือนกับ iPhone 13 แถมยังมีให้เลือกหลากหลาย โดยมีราคาดังนี้ครับ

รุ่น Wi-Fi

64GB = 17,900 บาท

256GB = 23,400 บาท << รุ่นที่ได้รับมาแกะกล่อง

รุ่น Wi-Fi + Cellular

64GB = 23,400 บาท

256GB = 28,900 บาท

หากถามอีกข้อคือ iPad Mini 6 เหมาะกับใคร คำตอบคือ คนที่ไม่ได้เน้น iPad ที่ต้องมาทำงานหนัก รองรับแค่หยิบขึ้นมาดูข้อมูลและใช้งานวาดภาพ เพราะไม่มีช่อง Smart Connector เหมือนกับรุ่นอื่นๆ และพก Tablet ทำงานรอง และใช้ Notebook เป็นหลักมากกว่า ถึงจะเหมาะสมและอยู่ด้วยกันได้ครับ

เข้าไปดูรีวิวแบบเต็มๆ ยาวๆ ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย

กระจกกันรอยแบบใส สำหรับ iPad mini 6

มีจุดเด่นที่การเป็น กระจกกันรอย แบบใสเต็มแผ่น ให้ภาพคมชัดกว่าติดฟิล์มกระจกกันรอยทั่วไป หน้าจอใส สีสดชัดไม่ผิดเพี้ยน และความแข็งแรงระดับ 9H ที่กันรอยขีดข่วนได้ดีเยี่ยม รองรับทุกไลฟ์สไตล์การใช้งาน 

พร้อมทั้ง คุณสมบัติ

  • ทัชลื่น ไม่สะดุด ด้วยโคชติ้งพิเศษ
  • ขอบโค้งมนแบบ 2.5D ไม่คม ไม่บาดมือ 
  • บริเวณขอบกระจก มีการเว้นระยะเข้ามาเล็กน้อย จึงรองรับทุกการใส่เคสกันกระแทก

ใครที่กำลังมองหากระจกกันรอยที่มีคุณภาพ แข็งแรง ทนทานคุ้มราคา หรือใครที่กำลังมองหากระจกกันรอยแบบมาตรฐานที่รองรับทุกการใส่เคสกันกระแทก หนาแค่ไหนเคสก็ไม่ดันขอบ กระจกกันรอยแบบใส จากโฟกัส เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณอย่างแน่นอน

สินค้าที่เกี่ยวข้อง