ในที่สุด iPad Air 6 ก็ได้เปิดตัวมาแล้วเป็นที่เรียบร้อยในงาน Apple Event: Let Loose โดยนักเรียน นักศึกษาที่กำลังเล็งจะซื้อ iPad กันในปี 2024 ต้องมีลังเลหนักแน่ๆ ครับ เพราะ iPad Air 6 ที่เปิดตัวออกมา สเปค และฟีเจอร์ต่างๆ เรียกได้ว่าน่าสนใจมากๆ แต่จะคุ้มค่ากับที่หายไปพัฒนามา 2 ปีหรือไม่ และแตกต่างจาก iPad Air 5 อย่างไรกันบ้าง ในบทความนี้โฟกัสจะมาสรุปให้ฟังกันครับ
โดยหากใครกำลังเล็งจะซื้อ iPad Air กันอยู่ ก็อย่าลืมเตรียมซื้อ “ฟิล์มกระจกกันรอย แบบใส โฟกัส” ด้วยกระจกกันรอยคุณภาพสูง แบบใสไม่มีขอบสี ช่วยปกป้องกันรอยขีดข่วนถึงสุดขอบจอ และได้ภาพคมชัด สีสดชัดเจน ดูหนังได้แบบฟินๆ เต็มอรรถรส ทัชลื่น smooth ทุกจุด และยังมีฟิล์มกระจกแบบอื่นๆ ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ไอแพดของทุกคนเลยทั้ง แบบด้าน, แบบกระดาษ, แบบถนอมสายตา และ แบบกันเผือก ในราคาเริ่มต้น 439 บาท ใครสนใจสั่งซื้อสินค้ากันได้ที่ ร้านค้าออนไลน์ เลยครับ
iPad Air 6 เปิดตัวตามข่าวลือ มี 2 ไซส์เหมือนรุ่น Pro
เริ่มกันที่ดีไซน์ภายนอก ที่มาตามข่าวลือก่อนหน้านี้เลย คือยังคงดีไซน์บางเฉียบ มีขอบดำด้านข้างเหมือนเดิม แต่จากเดิมที่ iPad Air 5 จะมีไซส์เดียวคือ 10.9 นิ้ว ในครั้งนี้ iPad Air 6 ได้เปิดตัวมา 2 ไซส์เป็นครั้งแรก คือ
- iPad Air 6 ไซส์ 11 นิ้ว , น้ำหนัก 462 กรัม
- และ iPad Air 6 ไซส์ 13 นิ้ว, น้ำหนัก 617 กรัม
คล้ายกับรุ่น iPad Pro 2024 ที่เปิดตัวมาพร้อมกันในครั้งนี้เลย เพียงแต่ iPad Pro จะมีน้ำหนักที่เบากว่านั่นเอง โดย iPad Air 6 จะยังคงเป็นจอแบบ Liquid Retina Multi‑Touch ก็ถือว่าเป็นการเพิ่ม Option ให้สำหรับคนที่ชื่นชอบจอใหญ่ๆ แต่ไม่ได้ต้องการสเปคเท่ารุ่น Pro นั่นเอง และในรุ่นนี้ก็จะรองรับการใช้งานคู่กับ Apple Pencil Pro ที่เปิดตัวใหม่มาพร้อมกันด้วยครับ
ขยับกล้องหน้า Air 6 มาแนวนอน ให้เหมาะกับการใช้งานจริง
ถัดมาที่เรื่องของกล้อง ในรุ่น iPad Air 6 ก็ได้มีการขยับกล้องหน้ามาที่ด้านข้างของตัวเครื่อง จากเดิมที่ iPad Air 5 กล้องหน้าก็จะอยู่ด้านบนเครื่อง ทำให้หน้าตาของ iPad Air รุ่นใหม่ ดูคล้ายกับ iPad Gen 10 ที่มีการปรับให้กล้องอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมกับการใช้งาน ที่ส่วนใหญ่มักจะเปิดใช้งานในแนวนอนตลอดอยู่แล้ว ไม่ว่าจะดูสไลด์ จดโน๊ต หรือเปิดกล้องประชุม และยิ่งเสริมด้วย ฟีเจอร์ “Center Stage” ที่กล้องจะแพนตามการเคลื่อนไหวโดยอัตโนมัติ ก็ยิ่งช่วยให้ใน iPad รุ่นนี้ได้เฟรมภาพที่สวยงามมากยิ่งขึ้นครับ
ชิปเซ็ต M2 อัดฉีดพลังความแรงสุดในรุ่น Air
ด้านของชิปเซ็ต จากเดิมใน iPad Air 5 ที่ใช้เป็นชิป M1 ประสิทธิภาพการประมวลผลในฝั่งของการใช้งานทั่วไปก็จัดว่าไวมาก หรือแม้แต่ประมวลผลภาพกราฟฟิกหนักๆ ก็สามารถทำได้อย่างลื่นไหล ในปีนี้ iPad Air 6 ก็ได้อัพเกรดชิปมาเป็น M2 ที่ทำให้รุ่นนี้เร็วขึ้นเกือบ 50% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ซึ่งถือว่ามีความเร็วแรงเทียบเท่ากับรุ่น iPad Pro 2022 ที่แม้ว่าจะเปิดตัวมาแล้ว 2 ปี แต่ประสิทธิภาพก็ถือว่ายังล้ำหน้าสุดๆ อยู่ สามารถประมวลผลภาพ 3D หรือตัดต่องานภาพที่มีความละเอียดสูงได้แบบสบายๆ กันเลย
สี Air 6 โทนใหม่ ถูกใจปึ้งกว่าเดิม
ครั้งนี้ ไอแพด Air 6 ก็มีมาให้เลือก 4 สีด้วยกันคือ สีฟ้า (โทนใหม่), ม่วง (โทนใหม่), สตาร์ไลท์ (Starlight) และเทาสเปซเกรย์ (Space Gray) ซึ่งเป็นโทนสีที่อ่อนลงมากว่ารุ่น iPad Air 5 ช่วยเพิ่มความละมุน ความเล่นแสงให้ดูสวย และ Luxury แบบสุดๆ ในขณะที่ไอแพด Air 5 จะมี 5 สีมาให้เลือกคือ ฟ้า, ชมพู, ม่วง, สตาร์ไลท์ และเทาสเปซเกรย์ ที่จะเน้นสีสันสดใส และความน่ารักเป็นหลัก
เพิ่มความจุ iPad ให้เก็บข้อมูลได้จุใจ
และในครั้งนี้ Apple ก็ได้เพิ่มความจุสำหรับ iPad Air 6 มาให้ จากเดิมที่ iPad Air 5 จะมีความจุเพียงแค่ 2 ตัวเลือกคือ 64 GB และ 256 GB แต่ครั้งนี้ Air 6 มีให้เลือกได้ถึง 4 ความจุและเปลี่ยนมาเริ่มต้นที่ 128 GB แทน ซึ่งก็ได้เพิ่มความจุ 512 GB และ 1 TB มาให้เราเก็บข้อมูลกันได้แบบจุใจสุดๆ
อัพเกรดสเปคแล้ว ราคาก็อัพขึ้นตามมา
สุดท้ายในเรื่องของราคา แม้ว่า iPad Air 6 จะมีการอัพเกรดสเปคต่างๆ มาให้ แต่ยังคงราคาเปิดตัวเริ่มต้น เท่ากับตอนที่เปิดตัว iPad Air 5 เลย โดยมีราคาดังนี้
- iPad Air 6 ,ไซส์ 11 นิ้ว ความจุ 128 GB : ราคา 23,900 บาท
- iPad Air 6 ,ไซส์ 13 นิ้ว ความจุ 128 GB : ราคา 29,900 บาท
สรุปนักเรียน นักศึกษา ซื้อ iPad Air 6 หรือ iPad Air 5 ดี??
ดังนั้นสรุปแล้ว นักเรียน นักศึกษาควรซื้อไอแพดรุ่นไหนดี จากการเปรียบเทียบสเปค iPad Air 6 จะเหมาะสำหรับ
1) คนที่อยากได้จอใหญ่แบบ iPad Pro 13 นิ้ว แต่ไม่ได้ต้องการสเปคจอที่โหดเท่ารุ่น Pro
2) เป็นคนที่ใช้ iPad Gen 7,8,9 / iPad Mini 5,6 หรือรุ่นก่อนหน้านั้นอยู่ แล้วกระโดดข้ามรุ่นมาเยอะ
3) ต้องใช้แอพที่มีการประมวลผลสูงค่อนข้างบ่อยเช่น ตัดต่อวิดีโอสเกลใหญ่, ออกแบบงาน 3D หรือทำภาพงานกราฟฟิกความละเอียดสูง
ดังนั้นหากคุณมีความต้องการหรือปัจจัยที่ใกล้เคียงกับ 3 ข้อด้านบน iPad Air 6 รุ่นใหม่ ก็ถือว่าเป็นการที่ลงทุนคุ้มค่าเลยครับ เนื่องจากนักเรียน นักศึกษา สามารถใช้สิทธิ์ UNiDAYS ในการซื้อสินค้า iPad และ Accessories อื่นๆ อย่างเช่น Apple Pencil Pro ได้ในราคาพิเศษอีกด้วย ก็จะได้ iPad รุ่นใหม่ในงบที่ประหยัดขึ้นอีกนิดครับ
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกท่านที่กำลังมองหา iPad เครื่องใหม่กันอยู่นะครับ และที่สำคัญอย่าลืมติด “ฟิล์มกระจกกันรอย โฟกัส” เพื่อปกป้องไอแพดของคุณให้สวยใส ไร้รอยขีดข่วน ใช้ทำงานกันได้แบบมั่นใจกันไปเลย ซึ่งหากใครสนใจดูฟิล์มกระจกกันรอยแบบอื่นๆ เพิ่มเติม ก็สามารถไปดูข้อมูลได้ที่บทความ เปรียบเทียบฟิล์มกระจกกันรอย iPad โฟกัส ได้เลยครับ โดยสามารถสั่งซื้อออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์นี้ หรือสั่งซื้อผ่าน Focus Store และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศได้เลย