และได้เครื่องมาใหม่แบบนี้ แอดมินขอปกป้องหน้าจอให้คงความสวยไว้ได้นานๆ ด้วยไอเท็มเด็ด ตัวนี้เลยครับ “ โฟกัสกระจกกันรอยแบบใส สำหรับ iPad Air4 “ ไว้ก่อนเลยครับ ตัวกระจกดีไซน์มาสำหรับรุ่น iPad Air 4 โดยเฉพาะ เพราะมีการเว้นพื้นที่เล็กน้อยสำหรับการใส่เคส แอดรับรองว่าใส่เคสหนาก็ไม่ดันกระจกแน่นอน แถมยังเคลือบโค้ชติ้งพิเศษเพิ่มการทัชลื่น สมูททุกการใช้งาน
แต่ถ้าหากใครเน้นการจดโน๊ต หรือวาดรูปเป็นหลัก แอดมินขอแนะนำ “ โฟกัส Paper Like ฟิล์มกระดาษสำหรับนักเขียน สำหรับ iPad Air4 ” โดยเนื้อฟิล์มกระดาษจะคล้ายกับฟิล์มแบบด้าน แต่มีความฝืดมากกว่า ช่วยลดความลื่นให้สัมผัสเหมือนกระดาษ ทำให้ใช้งาน iPad คู่ Apple Pencil ได้ถนัดมือมากยิ่งขึ้น เวลาเขียน หรือจดเลคเชอร์ จะสามารถควบคุมลายเส้นได้แม่นยำขึ้นนั่นเอง แถมยังให้เสียงเหมือนวาดเขียนบนกระดาษอีกด้วย ! ดังนั้นใครที่เป็นสายวาดเขียน หรือมักต้องจดงานลง iPad ห้ามพลาดเด็ดขาดเลยครับ
สเปคโดยรวมของ iPad Air4
- จอแสดงผล Liquid Retina กว้าง 10.9 นิ้ว
- วัสดุตัวเครื่องเป็นอะลูมิเนียมที่รีไซเคิลได้ 100%
- รองรับ Apple-Pen รุ่น 2 ระบบปากกาอัจฉริยะ
- ระบบปฏิบัติการ: iPad OS 14
- หน่วยประมวลผล : Apple A14 Bionic Hexa Core
- หน่วยประมวลผลกราฟิกส์ (GPU) : Apple GPU (4-core graphics)
- หน่วยความจำ ROM 64/256 GB RAM 4GB
- Bluetooth 5.0
- Type-C USB 2.0
- กล้องหลัก ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (Digital Camera)
- กล้องหน้า (Front Camera) ความละเอียด 7 ล้านพิกเซล
- มีให้เลือกที่รุ่น Wi-Fi กับ Wi-Fi + Cellular
- มีสีให้เลือก (Colors) : Green, Blue, Space Gray, Silver, Rose Gold
หน้าจอและดีไซน์รอบตัวเครื่อง
iPad Air4 มาในดีไซน์ใหม่หมดจด แบบหน้าจอทั้งหมด มีขอบหน้าจอที่บางลง พร้อมหน้าจอ Liquid Retina กว้าง 10.9 นิ้ว ค่าเฟรมเรท 60Hz มีความสว่างสูงสุด 500 nits
เมื่อติด “โฟกัส กระจกกันรอยแบบใส สำหรับ iPad Air4” จะเห็นว่า หน้าจอยังให้ความสดใสคมชัดเหมือนเดิมเลยครับ เพราะเป็นกระจกใสแบบ Ultra Clear ไม่ลดคุณภาพเม็ดสีบนหน้าจออย่างแน่นอน ตรงบริเวณขอบกระจกมีความโค้งมน ไม่บาดมือ
หรือหากใครเลือกติดเป็น “โฟกัส Paper Like ฟิล์มกระดาษสำหรับนักเขียน สำหรับ iPad Air4” ก็จะได้หน้าจอที่ให้ผิวสัมผัสเหมือนกระดาษ ช่วยลดแสงสะท้อน ลดการเกิดรอยนิ้วมือ แผ่นฟิล์มมีความบางแนบสนิทไปกับหน้าจอ ทำให้เคสไม่ดันฟิล์ม เนื่องจากตัวฟิล์มเป็นแบบด้าน อาจให้สีสันที่ดรอปลงเล็กน้อยนะครับ ซึ่งไม่ต้องกังวลครับ เพราะว่ายังสามารถใช้งานได้ตามปกติ ไม่ได้ดรอปลงจนต้องเพ่งสายตา หรือทำให้การรับชมความบันเทิงสนุกน้อยลงแต่อย่างใด
แอดได้ทดลองใช้งานกับปากกา Apple Pencil แล้วกับฟิล์มทั้ง 2 แบบ พบว่าสามารถใช้งานได้ปกติ ไม่มีปัญหาเลยครับ รวมไปถึงการทัชหน้าจอต่างๆ ก็มีความสมูทมากๆ
ทางด้านดีไซน์ตัวเครื่องมองเผินๆ แล้ว จะมีความคล้ายกับ iPad Pro นะครับ แต่ iPad Air4 จะโดดเด่นที่วัสดุทั้งหมด สามารถรีไซเคิลได้แบบ 100% ตามคอนเซ็ปต์ของทาง Apple ในปลายปี 2020 นี้ ที่จะหันมาใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และสีสันใหม่ๆ มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีเงิน สีเทาสเปซเกรย์ สีโรสโกลด์ สีเขียว และสีสกายบลู สีที่แอดมินนำมารีวิวในวันนี้คือสีเขียวครับ มีความพาสเทลเล็กน้อย เห็นแล้วแอบนึกถึงชาเขียวปั่นอยู่นิดๆ
และมีการตัด Touch ID ออกจากหน้าจอ โดยจะย้ายไปวางด้านข้างของตัวเครื่องแทน ใช้ร่วมกับปุ่มล็อค/ปลดล็อคตัวเครื่อง ซึ่ง Touch ID จะมีขนาดของปุ่มที่ใหญ่ขึ้นเพื่อใช้เป็นพื้นที่สแกนลายนิ้วมือนั่นเอง
นอกจากนี้ iPad Air4 ยังมีการวางลำโพงสเตอริโอ ให้เสียงดังฟังชัดและมีมิติมากขึ้น ซึ่งจะให้เสียงที่ดีทั้งในการใช้งานแนวตั้งและแนวนอน และได้เปลี่ยนมาใช้พอร์ตแบบ USB-C ซึ่งจะทำให้ความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลเร็วมากขึ้นกว่าเดิม 10 เท่า แถมรองรับการชาร์จแบตเตอรี่ได้ที่ความเร็วมากถึง 20W ซึ่งเค้าก็ได้แถมตัวอะแดปเตอร์ชาร์จเร็วตัวนี้มาให้ในกล่องด้วยครับ
กล้องหน้าและกล้องหลัง
ใน iPad Air รุ่น 4 นี้ ได้ปรับความละเอียดของกล้องหลังมาเป็น 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 ทำให้การถ่ายภาพ ถ่ายเอกสาร หรืองานต่างๆ ก็จะสว่างและคมชัดมากกว่าเดิมนั่นเองครับ ในส่วนการบันทึกวิดีโอ iPad Air 4 ก็สามารถบันทึกวิดีโอได้ที่ระดับ 4K กันไปเลย
และมาพร้อมกับ กล้อง FaceTime HD ความละเอียด 7 ล้านพิกเซล เพื่อการโทรแบบวิดีคอล, เรียนออนไลน์ และการประชุมออนไลน์ ที่คมชัดมากยิ่งขึ้น
ซึ่งทั้งกระจกกันรอยแบบใส และฟิล์มกระดาษ สำหรับ iPad Air 4 ของโฟกัส ได้มีการเว้นรูกล้องที่ด้านหน้าไว้ให้ด้วยครับ จึงใช้งานกล้องหน้าได้แบบเต็มประสิทธิภาพ
ชิปเซ็ตตัวใหม่ ที่เร็ว และแรงขึ้น!
มาถึงพาร์ทของระบบปฏิบัติการกันแล้วครับ อย่างที่กล่าวไว้ตอนต้นนั้นว่า iPad Air 4 มีการนำชิปเซ็ต A14 Bionic มาใช้เป็นรุ่นแรก ถ้าถามว่าชิปเซ็ตตัวนี้เจ๋งขนาดไหน ก็ต้องขอยืมคำขายจากทาง Apple มาใช้ ล่ะครับ ว่าเจ๋งในแบบที่ “มีแต่ชิปเซ็ตรุ่นก่อนหน้าของ Apple เท่านั้น (A13) ที่พอจะสูสี”
ชิปเซ็ต A14 ตัวนี้ จะเข้ามาช่วยในเรื่องการทำงาน และการประมวลผลต่างๆ ภายในตัวเครื่องครับ โดยจะให้ CPU ที่เร็วขึ้น 40% กราฟิกเร็วขึ้น 30% และการเรียนรู้ของระบบที่เร็วขึ้น 2 เท่า เมื่อเทียบกับชิปเซ็ต A13
ด้วยเทคโนโลยีกระบวนการผลิตแบบ 5 นาโนเมตร สุดล้ำ ทำให้จำนวนของทรานซิสเตอร์นั้นอัดแน่นได้มากขึ้นในพื้นที่ขนาดเท่าเดิม ผลลัพธ์ก็คือประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นในแทบทุกด้าน รวมถึงประหยัดพลังงานมากขึ้นด้วยแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานสูงสุด 10 ชั่วโมง
เมื่อการประมวลผลรวดเร็วขึ้น ก็ทำให้การทำงานและการจัดการบน iPad Air4 เครื่องนี้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นนั่นเองครับ ไม่ว่าจะเป็นการครีเอทวิดีโอ การจดบันทึก หรือแม้แต่การวาดลายเส้น ต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ ก็ทำได้ไม่มีสะดุด
ไอเท็มปกป้องหน้าจอ เพื่อการใช้งานที่ไร้ขีดจำกัด บนชิปเซ็ต A14!
ย้ำกันอีกครั้งว่าได้เครื่องใหม่มาทั้งที อย่าให้ไอเดียสุดสร้างสรรค์ต้องสะดุด เพราะเป็นกังวลเรื่องการใช้งาน ให้ฟิล์มกระจกโฟกัส ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการปกป้อง ช่วยปกป้อง iPad Air 4 เครื่องนี้เองนะครับ
คุณสมบัติของ “โฟกัสกระจกกันรอยแบบใส สำหรับ iPad Air4 ” ราคา 439 บาท
- กระจกกันรอยคุณภาพดี และแข็งแรงระดับ 9H
- เคลือบโค้ชติ้งพิเศษ ทัชลื่น สมูททุกการใช้งาน
- ใช้ร่วมกับปากกา Apple Pencil ได้
- เคสไม่ดัน 100%
- ปกป้องหน้าจอจากรอยขีดข่วนต่างๆ ได้ดีเยี่ยม มั่นใจทุกการใช้งาน
- กระจกใสเต็มแผ่นไม่มีหรือขอบสีมารบกวนสายตา
- คงความละเอียดของหน้าจอได้อย่างดี เพราะให้ภาพที่คมชัด สีสด ไม่เพี้ยน
- ทำความสะอาดง่าย ติดตั้งง่าย เมื่อแกะออก ไม่ทิ้งคราบกาว
คุณสมบัติ “โฟกัส Paper Like ฟิล์มกระดาษ สำหรับ iPad Air4 ” ราคา 490 บาท
- เนื้อฟิล์มแบบด้านช่วยลดความลื่นและแรงกระทบระหว่างจอกับดินสอ จะจดบันทึก หรือวาดลายเส้นก็ไหลลื่น
- ทุกสัมผัสเหมือนกระดาษจริง มีเสียงเหมือนดินสอเขียนบนกระดาษ
- ลดแสงสะท้อนบนหน้าจอเมื่อใช้งานกลางแจ้ง แต่ยังคงความคมชัด
- สามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้สุดขอบจอ
ราคาและการวางจำหน่าย iPad Air 4
iPad Air 4 มีให้เลือกในขนาด 64GB และ 256GB โดยราคาที่วางขายในประเทศไทย มีดังนี้ครับ
- Wi-Fi ความจุ 64GB ราคา 19,900 บาท
- รุ่น Wi-Fi ความจุ 128GB ราคา 24,900 บาท
- รุ่น Wi-Fi + Cellular ความจุ 64GB ราคา 24,400 บาท
- รุ่น Wi-Fi + Cellular ความจุ 128GB ราคา 29,400 บาท
ดังนั้นใครที่กำลังจะซื้อ iPad Air 4 และมองหากระจกกันรอยที่มีคุณภาพ แข็งแรง ทนทานคุ้มราคา ฟิล์มกระจกกันรอย ของโฟกัส เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับทุกคนอย่างแน่นอน รวมถึงมีหลายแบบให้เลือก นอกเหนือจาก 2 รุ่นด้านบนยังมี ฟิล์มกระจกแบบด้าน, แบบถนอมสายตา และแบบกันมอง ตอบโจทย์ทุกการใช้งานของทุกคนเลย มีรองรับทุกรุ่นและทุกแบบ สามารถสั่งซื้อที่ด้านล่างนี้ได้เลย พร้อมจัดส่งฟรีทั่วประเทศครับ หรือหากสนใจดูฟิล์ม iPad แบบอื่นเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่นี่เลยครับ ซึ่งหากใครยังลังเลว่าควรเลือกเป็นฟิล์มกระจกแบบใส หรือฟิล์มกระดาษ สามารถดูเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่บทความนี้เลยครับ
