ฟิล์มโฟกัส ฟิล์มกระจกกันรอย Focus Film

VIVO V20 PRO มือถือ 5G ที่บางที่สุดในโลก ดีไซน์อย่างศิลปะ พร้อมกล้องอัจฉริยะ

 

เปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมเรียกกระแสฮือฮาในความหรูหราของตัวเครื่องมากๆ เลยครับ กับซุปเปอร์สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด Vivo V20 Pro ที่โดดเด่นทุกมุมมอง พร้อมความสวยงามของตัวเครื่องที่มีความแตกต่างกัน แต่ละเฉดสีที่มีเรื่องเล่า จากการการหล่อหลอมศิลปะ เทรนด์และความคลาสสิกเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อแสดงถึงความงามอย่างเป็นธรรมชาติ 

และสีที่ทางแอดมินได้นำมารีวิวในวันนี้ มีชื่อสีว่า Sunset Melody ครับ เป็นเฉดสีสันเร่าร้อน ชวนให้นึกถึงบรรยากาศที่ชายหาดยามพระอาทิตย์ตก เท่านั้นยังไม่พอครับ เพราะไฮไลท์ที่น่าสนใจของรุ่นนี้ ก็คือ การรองรับการใช้งาน 5G แถมยังเป็นสมาร์ทโฟน 5G ที่มีขนาดของตัวเครื่องบางที่สุดในโลก!  พร้อมหน้าจอแสดงผล AMOLED + HDR10 และฟีเจอร์ของกล้องถ่ายภาพทั้งด้านหน้ากับด้านหลังที่จัดเต็ม!

 

สรุปสเปกเบื้องต้นของ Vivo V20 Pro

  • ระบบปฏิบัติการ : Funtouch OS 11 บนพื้นฐาน Android 10
  • หน้าจอ : AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด FullHD+
  • หน่วยประมวลผล : Snapdragon 765G
  • GPU : Adreno 620
  • RAM : 8GB (LPDDR4X)
  • พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน : 128GB
  • MicroSD Card : ไม่รองรับ
  • ระบบเชื่อมต่อ : 5G, 4G, Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac 2.4GHz+5GHz, Bluetooth 5.0, GPS, GLONASS
  • ไม่มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
  • เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
  • พอร์ต USB Type-C 2.0
  • กล้องหลัก : ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.89
  • กล้องสอง : เลนส์ UltraWide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
  • กล้องสาม : เลนส์ขาวดำ ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
  • การบันทึกวิดีโอความละเอียดสูง 4K 30fps
  • การบันทึกวิดีโอ Slow-Motion ความละเอียดสูงสุด FullHD 240fps
  • กล้องหน้าแบบเซลฟี่แบบคู่ เลนส์หลักความละเอียด 44 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส + เลนส์สอง 8 ล้านพิกเซล มุมมอง 105 องศา
  • แบตเตอรี่ : 4,000 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33 วัตต์

 

รูปลักษณ์ภายนอก

เริ่มจากดีไซน์ของตัวเครื่องกันก่อนเลยนะครับ อย่างที่เกริ่นไปข้างต้น Vivo ได้ให้ความสำคัญเรื่องการออกแบบ เพื่อความสวยงาม โดดเด่น เข้ากับทุกไลฟ์สไตล์ของคุณ มีการไล่เฉดสีสันที่สวยงาม เมื่อสะท้อนกับแสงจะให้มิติที่แตกต่าง ส่วนด้านหลังตัวเครื่อง ใช้แนวคิด AG Matte Glass ให้ผิวสัมผัสแบบด้านที่มีความเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น และเพื่อคงความสวยงามของผิวสัมผัสให้ยาวนานขึ้น แอดมินได้ทำการติด “ฟิล์มกันรอยด้านหลังแบบด้าน” เอาไว้ เพื่อป้องกันรอยขีดข่วนที่จะมาทำลายความสวยงามของตัวเครื่อง และที่สำคัญฟิล์มตัวนี้ ยังมีเทคโนโลยี Anti Fingerprint ที่ช่วยป้องกันรอยนิ้วมือ และลดคราบมันต่างๆ เวลาสัมผัสที่ด้านหลังเครื่องด้วยนะครับ โชว์สีของตัวเครื่องได้อย่างเต็มที่ แทบดูไม่ออกว่าติดฟิล์มทับลงไป ฟิล์มตัวนี้แถมให้ฟรี ในกล่องกระจกกันรอยโฟกัสทุกกล่อง ทุกรุ่นเลยนะครับ

สำหรับขนาดของตัวเครื่อง ถ้าเป็นสี  Sunset Melody มีขนาดตัวเครื่องที่ 158.82 x 74.20 x 7.49 มม. น้ำหนัก 170 กรัม จะเห็นได้ว่ามีควางเพรียวบางมากๆ เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟน 5G รุ่นอื่นๆ ที่มีในปัจจุบัน จับถนัดมือ ไม่ว่าจะถือในมุมในก็สวยทุกมุมมองจริงๆ ครับ 

หน้าจอแสดงผลเป็นแบบ AMOLED รองรับเทคโนโลยีการแสดงผล HDR10 มีขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด FullHD+ ให้ความสว่างของหน้าจอสูงสุด 600nits สว่างขั้นสุด และให้สีสันที่สดใสคมชัดมากๆ เลยล่ะครับ ใครที่ชอบดูหนัง หรือไถฟีดโซเชี่ยล รับรองว่าได้สีสันสดชัดโดนใจแน่นอน ต่อให้ติด “กระจกกันรอย” ทับหน้าจอลงไป ก็ไม่มีผลต่อการแสดงผลบนหน้าจอครับ เพราะโฟกัสได้ออกแบบกระจกกันรอยให้มีความใสเป็นพิเศษ แบบ Ultra Clear  จึงยังคงสีสันของหน้าจอไว้เช่นเคย และยังให้สัมผัสเหมือนกับหน้าจอจริงๆ อีกด้วย

เหนือหน้าจอขึ้นไปมีเลนส์กล้องเซลฟี่แบบ Dual เป็นเลนส์คู่กัน 2 เลนส์ เสมือนดวงตาคอยจับภาพ ความละเอียด 44 ล้านพิกเซล ที่มาพร้อมกับเลนส์ Super Wide-Angle 8 ล้านพิกเซล 

จะเห็นได้ว่า “กระจกกันรอยโฟกัส” ได้มีการออกแบบมีให้พอดีกับรอยตัดขอบของหน้าจอเลยครับ ทำให้ตัวกระจกติดเนียนไปกับหน้าจอเลย แต่ก็ยังเว้นบริเวณเลนส์กล้องเอาไว้ให้แบบเนียนๆ ด้วย

นอกจากนี้เค้ายังมีระบบสแกนลายนิ้วมือที่หน้าจอ กับ ระบบการสแกนใบหน้ามาให้ด้วย ไม่ต้องกังวลว่าถ้าติดกระจกกันรอยไปแล้วจะใช้งานไม่ได้นะครับ แอดมินขอรับรองว่า สามารถสแกนลายนิ้วมือได้ตามปกติ 100% และสแกนได้ไวมากๆ เหมือนเดิมด้วย

ตัวเครื่องด้านขวามีปุ่ม Power สำหรับล็อค/ปลดล็อค/เปิด-ปิดเครื่อง และปุ่มเพิ่มเสียง/ลดเสียง โดยสามารถเปิดใช้งานฟังก์ชั่นกดปุ่ม Power ติดต่อกันสองครั้งเพื่อเรียกใช้งานถ่ายภาพด่วน หรือกดปุ่ม Power พร้อมปุ่มลดเสียง เพื่อแคปหน้าจอ ตามการตั้งค่า

ด้านล่างตัวเครื่องมีช่องใส่ซิมการ์ดประเภท Dual Nano SIM อยู่ที่ฝั่งซ้าย ต่อด้วยรูไมโครโฟนสนทนา ส่วนบริเวณกึ่งกลางคือพอร์ต USB Type-C แบบ 2.0 และลำโพงอยู่ฝั่งขวา

ด้านหลังตัวเครื่องประกอบด้วยเลนส์กล้องทั้งหมด 3 เลนส์ ซึ่งมีลักษณะโมดูลยื่นออกมาจากตัวเครื่อง ทำให้ต้องระมัดระวังในการวางบนพื้นผิวหน่อย มิเช่นนั้นอาจเป็นรอยได้ อาจจะใช้วิธีการใส่เคสเพื่อป้องกันไว้ได้ครับ ในกล่องของ Vivo V20 Pro ตัวนี้ เค้าแถมเคสซิลิโคนแบบใสมาให้ด้วย ซึ่งเคสก็ไม่ได้ดันกระจก และตัวเคสก็ไม่ได้ดูดตัวเครื่องด้านหลัง เพราะเราติดฟิล์มแบบด้านช่วยลดการเสียดสีไปแล้วนั่นเองครับ

 

จุดเด่น

หลังจากที่เราเห็นลักษณะภายนอกของตัวเครื่องไปจนครบทุกมุมแล้ว คราวนี้ถึงตาของจุดเด่นที่น่าจับตามอง ของ Vivo V20 Pro เครื่องนี้กันบ้างดีกว่าครับ

 

โหมดประหยัดแบตเตอรี่และชาร์จไว 33W

โดยจะช่วยให้คุณยืดเวลาการใช้งานสมาร์ทโฟนให้นานยิ่งขึ้นไปอีก หากแบตเตอรี่ใกล้หมด ซึ่งระบบจะปิดการทำงานในส่วนของระบบที่ไม่จำเป็นออกไป นอกจากนี้ยังมีระบบชาร์จไว 33W Vivo FlashCharge 2.0 มาให้ด้วย ชาร์จไวกันแบบสุดๆ ไม่ถึงชั่วโมงเครื่องก็พร้อมใช้งานต่อได้แบบยาวๆ 

 

โหมดป้องกันดวงตา

อีกหนึ่งโหมดที่จะช่วยดูแลดวงตาของคุณ โดยสามารถกำหนดเวลาตัดแสงสีฟ้าออกได้เลย เช่น กำหนดไว้เวลา 21.00 เมื่อถึงเวลาสมาร์ทโฟนก็จะเปิดโหมดนี้อัตโนมัติ ทำให้คุณเล่นอะไรต่างๆ ได้โดยที่ไม่มีแสงสีฟ้าไปรบกวนดวงตา ขณะใกล้นอน

 

ฟีเจอร์ Game Turbo

มาพร้อมฟีเจอร์ Game Highway สร้างช่องทางด่วนสำหรับเล่นเกม โดยจัดลำดับความสำคัญของ CPU และหน่วยความจำ ช่วยลดปัญหาเฟรมเรตตกได้ถึง 78.05% พร้อมฟังก์ชั่น System Framework Optimization (ใน Center Turbo) ควบคุมลำดับความสำคัญของการแจ้งเตือนระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเร็วในการตอบสนองเพิ่มขึ้น 30%

 

กล้องหน้า/กล้องหลัง

สเปกกล้องหลังและกล้องหน้าของ Vivo V20 Pro

  • กล้องหลัก : ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล 
  • กล้องสอง : เลนส์ UltraWide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล กล้องสาม : เลนส์ขาวดำ ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
  • การบันทึกวิดีโอความละเอียดสูง 4K 60fps ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง
  • การบันทึกวิดีโอ Slow-Motion ความละเอียดสูงสุด FullHD 240fps
  • กล้องหน้าแบบเซลฟี่แบบคู่ เลนส์หลักความละเอียด 44 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส + เลนส์สอง 8 ล้านพิกเซล มุมมอง 105 องศา พร้อมด้วยระบบกันสั่น

เรื่องกล้อง ก็ถือเป็นอีกจุดไฮไลท์ของสมาร์ทโฟนเครื่องนี้เลยครับ สำหรับกล้องหน้า ที่มีความละเอียด 44 ล้านพิกเซลนี้ เค้ามาด้วยเทคโนโลยี กล้องหน้าคู่ Eye AutoFocus  ที่มาพร้อมกับโหมดโฟกัสอัตโนมัติ (AF) สามารถจับโฟกัสจากระยะถ่าย 15 CM ถึงจุดที่ไกลที่สุดได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะถ่ายระยะใกล้หรือจะใช้ไม้เซลฟี่ระยะไกลแค่ไหน ก็สามารถถ่ายเซลฟี่ได้อย่างคมชัด 

โดยจะจับการเคลื่อนไหวและโฟกัสที่ดวงตาเป็นหลัก เพื่อให้ได้ภาพเซลฟี่ที่มีมิติ สมจริงทุกการเคลื่อนไหว มีให้เลือกถ่ายภาพทั้งแบบเซลฟี่มุมกว้างและเซลฟี่โบเก้ สามารถกดเลือกเมนูการถ่ายภาพด้วยที่ไอคอนเลนส์มุมขวาด้านล่าง

และใครที่เซ็งๆ ว่า โหมดถ่ายภาพเซลฟี่สวยๆ รุ่นอื่นๆ มักจะมีแต่ในกล้องธรรมดา ทาง Vivo V20 Pro ก็จัดให้ กับฟีเจอร์การถ่ายวิดีโอผ่านกล้องหน้า ที่เรียกได้ว่าล้ำสุดๆ ถึง 2 โหมดด้วยกัน ได้แก่

4K Selfie Video : การถ่ายวิดีโอกล้องหน้ามีความคมชัดมากขึ้นด้วความชัดระดับ 4K นอกจากนี้ยังมีกันสั่นระบบ Steadiface ช่วยลดการสั่นของวิดีโอได้อีกด้วย

Slo-Mo Selfie Video : การถ่ายวิดีโอกล้องหน้าสามารถถ่ายแบบสโลโมชั่นได้ทำให้วิดีโอมีความน่าสนใจมากขึ้น

และถ้ายังล้ำไม่พอ เค้าก็ได้ใส่ฟีเจอร์ Dual-View Video มาให้ด้วยครับ ซึ่งจะฉีกกฏการถ่ายภาพเดิมๆ ไปอย่างสิ้นเชิง! โดยโหมดนี้จะเราถ่ายภาพแบบ กล้องหน้า-กล้อง และ กล้องหลัง-กล้องหลังมุมกว้าง ได้พร้อมกัน! เจ๋งสุดๆ ไปเลยใช่ไหมล่ะครับ

สำหรับกล้องหลักด้านหลัง ที่ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ก็ไม่น้อยหน้า นอกจากเราจะได้ภาพที่คมชัดมากๆ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เค้าก็ยังให้โหมด “ภาพความละเอียดสูง” มาด้วย เรียกว่ารีดทุกประสิทธิภาพของกล้องทุกเลนส์ ให้เราได้ภาพถ่ายที่คมชัด และเป็นธรรมชาติสุดๆ เสมือนมองเห็นด้วยตาเปล่าเลยครับ

และยังมีโหมดอื่นที่เจ๋งไม่แพ้กันอีกเพียบ! ไม่ว่าจะเป็น

โหมดถ่ายภาพมุมกว้าง : เก็บรายละเอียดของภาพได้กว้างถึง 105 องศา เซลฟี่ หรือถ่ายภาพรวมกันทั้งแก๊งก็ไม่มีหลุดเฟรม

โหมดถ่ายภาพกลางคืน : นอกจากภาพที่สว่างสวยเป็นธรรมชาติแล้ว ยังช่วยเก็บภาพให้คมชัดแบบกว้างๆ แสดงปริมาณแสงได้สมจริง พร้อมฟิลเตอร์แต่งภาพให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น

 

ราคาวางจำหน่าย

สำหรับ Vivo V20 Pro มีวางจำหน่าย 3 สี คือ Moonlight Sonata , Midnight Jazz , Sunset Melody ในราคา 14,999 บาท  ใครที่สนใจ สามารถไปลองเล่นที่ช็อปของ VIVO ได้เลยครับ 

มือถือราคาแรง แต่ “กระจกกันรอยสำหรับ Vivo V20 Proราคาไม่แรงอย่างที่คิดนะครับ เพราะถ้าซื้อที่โฟกัสตอนนี้ ราคาเริ่มต้นที่ 159  สำหรับกระจกกันรอยแบบใส และ เริ่มต้นที่ 249 บาท สำหรับกระจกกันรอยแบบเต็มจอ 

แถมฟรี! ฟิล์มหลังแบบด้าน ช่วยเพิ่มผิวสัมผัสที่พรีเมี่ยม พร้อมป้องกันริ้วรอยขีดข่วนด้านหลังตัวเครื่อง ให้ทุกรุ่น ทุกกล่อง คุ้มค่ามากๆ เลยครับ

สินค้าที่เกี่ยวข้อง