ฟิล์มโฟกัส ฟิล์มกระจกกันรอย Focus Film

รีวิว VIVO X80 Serie ตัวท็อปขาโหดมาแรง กล้อง ZEISS เทพที่สุดจากทุกรุ่นในวีโว่ !

หลังจากประกาศความร่วมมือกับแบรนด์ระดับโลกอย่าง ZEISS พร้อมวิจัย และพัฒนากล้องถ่ายภาพร่วมกัน ล่าสุดก็ต่อยอดมาถึงรุ่นที่ 3 แล้วนั่นคือ vivo X80 Series 5G ที่มาด้วยกัน 2 รุ่นเช่นเคย ได้แก่ vivo X80 5G และ vivo X80 Pro 5G ภายใต้สโลแกน “Cinematics Redefined”

 

 

vivo X80 5G | X80 Pro 5G โดดเด่นที่กล้องถ่ายภาพซึ่งพัฒนาร่วมกับ ZEISS (vivo ZEISS Co-Engineered Imaging System) ที่อัปเกรดต่อยอดจากเดิมไปอีกหลายด้าน บนการดีไซน์แบบ Cloud Window 2.0 ที่มีเลนส์ถ่ายภาพจาก ZEISS รวมทั้งเลือกใช้กระจกครอบเลนส์ High-Transmittance Glass Lens ในรุ่น X80 Pro 5G ซึ่งทนต่อการตกกระแทกจากความสูง พร้อมเทคโนโลยีเคลือบเลนส์แบบ ZEISS T* Coating ที่ช่วยลดแสงสะท้อน โดยตัวเครื่องจะนูนออกมาจากตัวเครื่องอย่างเห็นได้ชัด 

 

รวมถึงใช้ vivo Pro Imaging Chip V1+ สำหรับประมวลภาพ (ISP) ที่ทาง vivo พัฒนาขึ้นเอง สำหรับเพิ่มประสิทธิภาพของการบันทึกวิดีโอ โดยมีกล้องตัวหลักที่ใช้เซนเซอร์รับภาพ Sony IMX866 (RGBW) ใหม่ล่าสุดในรุ่น X80 5G และเซนเซอร์ Samsung ISOCELL GNV ในรุ่น X80 Pro 5G ซึ่งรองรับระบบกันสั่นแบบ OIS ผสานกล้องตัวที่สองแบบ Telephoto ที่รองรับระบบป้องกันการสั่นแบบ Gimbal OIS รวมถึงกล้อง Ultra-Wide 

 

โดยในรุ่น X80 Pro 5G จะมีกล้องตัวที่สี่แบบ Periscope Telephoto เพิ่มเข้ามา ที่รองรับระบบกันสั่นแบบ OIS และสามารถซูมภาพแบบ Optical ได้ไกล 5 เท่า และแบบ Digital ได้ไกลถึง 60 เท่า ซึ่งรองรับโหมดถ่ายภาพที่ทำให้คุณกลายเป็นมืออาชีพได้ง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็น Pure Night View ที่มากับอัลกอริธึมใหม่ จึงสามารถถ่ายภาพเวลากลางคืนได้สว่างคมชัดมากขึ้น และฟีเจอร์ 50mm ZEISS Gimbal Portrait Camera พร้อมคงเอกลักษณ์เลนส์ ZEISS อย่าง Biotar, Sonnar, Planar และ Distagon ไว้ครบครัน รวมถึงแบบใหม่อย่าง Cinematic ไปจนถึงระบบกันสั่นสำหรับถ่ายวิดีโอโดยเฉพาะแบบ Active Centering OIS System และ 360° Horizon Leveling Stabilization

 

สำหรับตัวเครื่องที่โฟกัสนำมาแกะกล่องและทดลองติดฟิล์มในวันนี้ คือรุ่น vivo X80 5G และได้ทำการติดฟิล์ม Hydroplus จากโฟกัส ไปด้วย (ฟิล์ม Hydroplus คืออะไร)  จะเป็นยังไง มาดูไปพร้อม ๆ กันเลยครับ

 

สเป็คพื้นฐาน VIVO X80 5G

  • ขนาด 164.95 × 75.23 × 8.30 มม., น้ำหนัก 206 กรัม
  • หน้าจอ AMOLED FHD+ ขนาด 6.78 นิ้ว อัตรารีเฟรชเรท 120 Hz รองรับ HDR10+
  • หน่วยประมวลผล MediaTek 9000 Octa-core 3.05 GHz, RAM 12+4 GB, ROM 256 GB
  • หน่วยประมวลผลภาพ 3D Mali-G710 MC10
  • สามารถดึงหน่วยความจำ ROM มาเพิ่มหน่วยความจำ RAM ได้อีก 4 GB 
  • รองรับเครือข่าย 4G LTE และ 5G SA/NSA
  • กล้องหน้า ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.5
  • กล้องหลัง 3 เลนส์
  • กล้องหลักเลนส์ Wide 50 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.49
  • กล้อง Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.0 ซูมออฟติคอล 2 เท่า
  • กล้อง Ultra wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.98
  • เทคโนโลยีเลนส์ และการถ่ายภาพจาก ZEISS
  • แบตเตอรี่ 4,500 mAh ชาร์จเร็ว FlashCharge กำลังไฟ 80 วัตต์
  • รองรับการเชื่อมต่อ WiFi 6 ความถี่ 2.4/5 GHz 2×2 MIMO, MU MIMO และบลูทูธ 5.3
  • สี Cosmic Black, Urban Blue
  • ราคาเปิดตัว 29,999 บาท

 

vivo X80 5G ประมวลผลด้วยชิปเซ็ตระดับท็อปรุ่นล่าสุดจาก MediaTek อย่าง Dimensity 9000 บนเทคโนโลยีการผลิตระดับ 4nm รองรับเครือข่าย 5G แบบ Dual 5G SIM กับ Wi-Fi 6 ทำงานร่วมกับ RAM แบบ LPDDR5 ขนาด 12GB ซึ่งรองรับเทคโนโลยี Extended RAM 2.0 ที่สามารถขยาย RAM เพิ่มได้อีก 4GB พร้อม ROM แบบ UFS 3.1 ความจุเท่ากันที่ 256GB และรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 80W FlashCharge บนระบบปฏิบัติการ Android 12 ที่ถูกครอบทับด้วย Funtouch OS 12 เวอร์ชันใหม่ล่าสุด

 

 

มากับหน้าจอ E5 AMOLED 3D Curved Screen ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD+ รองรับค่า Refresh Rate ระดับสูงสุด 120Hz ส่วนรุ่น โดยมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือฝังไว้ใต้หน้าจอ (In-Display Fingerprint Sensor) และมีฝาหลังดีไซน์หรูแบบ Ultimate Aesthetic ใหม่ล่าสุด ให้ผิวสัมผัสแบบด้านป้องกันการเกิดรอยนิ้วมือได้เป็นอย่างดี

 

 

vivo X80 5G มีจุดเด่นที่น่าสนใจอยู่หลายด้าน โดยเฉพาะการถ่ายภาพ และวิดีโอด้วยกล้อง ZEISS ที่มีลูกเล่นต่าง ๆ ครบครัน จัดเต็มเทียบชั้นกล้องโปร

 

 

เข้าไปรับชมรีวิวแบบเต็มๆ ได้ ที่ลิงค์ด้านล่างนี้เลยครับ 

 

 

 

สินค้าที่เกี่ยวข้อง